มาตรฐานเหล็กสากลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

มาตรฐานเหล็กสากลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

เมื่อกล่าวถึงมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม นอกจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (มอก.) -Thai Industrial Standard (TIS.) ที่เรายึดถือใช้กันในประเทศไทยแล้ว ก็ยังมีมาตรฐานอื่น ๆ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ในประเทศอื่น ๆ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลด้วย

1. มาตรฐานเหล็กระบบอเมริกัน AISI ( American Iron and Steel Institute )

เป็นมาตรฐานของสถานบันเหล็กและเหล็กกล้าของอเมริกา โดยสัญลักษณ์มาตรฐานจะขึ้นต้นด้วย AISI ตามด้วยตัวอักษรที่แบ่งแยกชนิดเตาหลอม ตามด้วยตัวเลขที่บ่งบอกชนิด และ ตามด้วยตัวเลขส่วนผสม

ตัวอักษรที่บอกกรรมวิธีการผลิตเหล็กจะมีดังนี้
A คือ เหล็กประสมที่ผลิตจากเตาเบสเซมเมอร์ ( Bessemer ) ชนิดที่เป็นด่าง
B คือ เหล็กประสมที่ผลิตจากเตาเบสเซมเมอร์ ( Bessemer ) ชนิดที่เป็นกรด
C คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาโอเพ็นฮารท์ ( Open Hearth ) ชนิดที่เป็นด่าง
D คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาโอเพ็นฮารท์ ( Open Hearth ) ชนิดที่เป็นกรด
E คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาไฟฟ้า

2. มาตรฐานเหล็กระบบเยอรมัน DIN (Deutsch Institute Norms)

มาตรฐานการรับรองของอุตสาหกรรมจากประเทศเยอรมัน
การจำแนกประเภทของเหล็กตามมาตรฐานเยอรมัน

แบ่งเหล็กออกเป็น 4 ประเภท

-เหล็กกล้าคาร์บอน (หรือเหล็กไม่ประสม)

-เหล็กกล้าผสมต่ำ

-เหล็กกล้าผสมสูง

-เหล็กหล่อ

3. มาตรฐานสมาคมการทดสอบและวัสดุอเมริกัน ASTM (American Society for Testing and Materials)

มาตรฐานของสมาคมวิชาชีพ ทางด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ที่กำหนดมาตรฐานซึ่งเป็นที่นิยมใช้ และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ค่ามาตรฐานเหล็กของ ASTM นั้นจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A แล้วตามด้วยตัวเลข ที่เริ่มตั้งแต่ 1-1106 โดยตัวเลขแทนค่าชนิดของเหล็ก เช่น ASTM A572 เป็นเหล็กกล้าผสมต่ำ

ASTM มีการจัดแบ่งมาตรฐานออกเป็นกลุ่มๆ เฉพาะเรื่อง โดยใช้ตัวอักษร เป็นสัญลักษณ์แทนกลุ่มของเนื้อเรื่อง เรียงตามลำดับดังนี้

A : Ferrous Metals
B : Nonferrous Metals
C : Cementitious, Ceramic, Concrete, and Masonry Meterials
D : Miscellaneous Materials
E : Miscellaneous Subjects
F : Materials for Specific Applications

4. มาตรฐานเหล็กระบบญี่ปุ่น JIS (Japanese Industrial Standards)

มาตรฐานญี่ปุ่นซึ่งจัดวางระบบโดยสำนักงานมาตรฐาน อุตสาหกรรมญี่ปุ่น จะแบ่งเหล็กตามลักษณะงานที่ใช้
โดยสัญลักษณ์มาตรฐาน คือ JIS ตามด้วยตัวอักษรที่หมายถึงการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ โดยโลหะประเภทเหล็กและโลหะวิทยาจะใช้ตัวอักษร G และปิดท้ายด้วยตัวเลข 4 หลัก

ตัวอักษรสัญลักษณ์ที่ใช้ในการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ 

A งานวิศวกรรมก่อสร้างและงานสถาปัตย์
B งานวิศวกรรมเครื่องกล
C งานวิศวกรรมไฟฟ้า
D งานวิศวกรรมรถยนต์
E งานวิศวกรรมรถไฟ
F งานก่อสร้างเรือ
G โลหะประเภทเหล็กและโลหะวิทยา
H โลหะที่มิใช่เหล็ก
K งานวิศวกรรมเคมี
L งานวิศวกรรมสิ่งทอ
M แร่
P กระดาษและเยื่อกระดาษ
R เซรามิค
S สินค้าที่ใช้ภายในบ้าน
T ยา
W การบิน
.
ตัวเลข 4 หลัก แต่ละหลักมีความหมายต่างกัน ดังนี้

ตัวเลขแรก หมายถึง กลุ่มประเภทของเหล็ก

0 เรื่องทั่ว ๆ ไป การทดสอบและกฎต่าง ๆ
1 วิธีวิเคราะห์
2 วัตถุดิบ เหล็บดิบ ธาตุประสม
3 เหล็กคาร์บอน
4 เหล็กกล้าประสม

ตัวเลขที่ 2 หมายถึง ประเภทของวัสดุในกลุ่มนั้น
1 เหล็กกล้าประสมนิกเกิลและโครเมียม
2 เหล็กกล้าประสมอลูมิเนียมและโครเมียม
3 เหล็กไร้สนิม
4 เหล็กเครื่องมือ
8 เหล็กสปริง
9 เหล็กกล้าทนการกัดกร่อนและความร้อน

ตัวเลข 2 หลักสุดท้าย จะเป็นตัวแยกชนิดของส่วนผสมที่มีอยู่ในวัสดุนั้น ๆ

01 เหล็กเครื่องมือ คาร์บอน
03 เหล็กไฮสปีด
04 เหล็กเครื่องมือผสม
06 เหล็กผสมทังสเตน
07 เหล็กผสมโมลิบดินั่ม
08 เหล็กผสมวาเนเดียม

__________

จากที่กล่าวมา ก็เป็นมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมที่นอกเหมือนจาก TIS มอก. ของบ้านเรา ที่ได้รับความนิยม มีความเป็นสากล และได้รับการยอมรับทั่วโลก เหล็กหลายชนิดในบ้านเราก็ถือควบหลายมาตรฐาน ทั้งของประเทศไทยและของต่างชาติ โดยสามารถเทียบเคียงมาตรฐานกันได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในระดับสากลมากขึ้น

__________

พิพัฒน์สตีลเราจัดจำหน่ายเหล็ก มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน ภายใต้มอก. และมาตรฐานอื่นระดับสากล ทำให้มั่นใจได้เลยว่า เหล็กที่พิพัฒน์สตีลมีคุณภาพดีแน่นอน

__________

>> สนใจติดต่อ-สั่งซื้อ
Tel : 093-263-6353 (คุณลูกเจี๊ยบ)
Tel : 081-144-5363 (คุณพิพัฒน์)
Line : https://lin.ee/mUnOlb0 
E-mail : phiphatsteel@gmail.com 
Website : www.phiphatsteel.co.th